ความหมายของการบรรจุและบรรจุภัณฑ์อาหาร
บรรจุภัณฑ์อาหาร (Food Packaging) มีความสัมพันธ์กับสังคมมนุษย์มาช้านาน คำว่า "ภาชนะบรรจุ" หรือ "บรรจุภัณฑ์" ภาษาอังกฤษใช้คำว่า "package" ใช้ร่วมกับ "การบรรจุ" หรือ "packaging" ในภาษาอังกฤษ ซึ่งหมายถึง วิธีในการจัดส่งสินค้าผลิตภัณฑ์ไปยังจุดหมายปลายทางอย่างปลอดภัยและคุ้มราคาสูงสุดหน้าที่ของการบรรจุขยายขอบเขตไปเรื่อยๆ ตามความต้องการของมนุษย์ที่เพิ่มขึ้นตามยุคสมัย เริ่มจากหน้าที่ในการรองรับและการปกป้อง ป้องกันผลิตภัณฑ์จากสภาวะอันตรายต่างๆ หน้าที่สำคัญอีกประการหนึ่งในการบรรจุผลิตภัณฑ์หลายประเภท โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์อาหารก็คือ การเป็นส่วนหนึ่งของการแปรรูปอาหาร
บรรจุภัณฑ์กับกระบวนการแปรรูปอาหารมีความเกี่ยวข้องกันมาช้านาน การผลิตอาหารกระป๋อง อาหารในถุงรีทอร์ทเพาซ์ ที่รู้จักกันดีเมื่อเริ่มต้นเดิมทีใช้บรรจุภัณฑ์ประเภทแก้ว โดยหลักการถนอมอาหารก็คือ การฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดโรคแล้วทำให้อาหารเน่าเสีย โดยใช้ความร้อนสูงกว่าอุณหภูมิน้ำเดือด ซึ่งต้องใช้ความดันช่วย บรรจุภัณฑ์แก้วมีสมบัติตอบสนองความก้องการของการแปรรูปอาหารด้วยความร้อนนี้ คือ สามารถทนความร้อนและความดันระดับนี้ได้ และที่สำคัญสามารถปิดผนึก และในสภาวะปิดสนิทไม่ยอมให้อากาศเข้ามาได้ ทำให้เชื้อจุลินทรีย์ไม่สามารถเจริญเติบโตได้
แต่บรรจุภัณฑ์ประเภทแก้วก็มีข้อด้วยอยู่หลายประการ จึงได้มีการนำบรรจุภัณฑ์อื่นๆ มาใช้แทนแก้วในเวลาต่อมาข้อด้วยที่สำคัญของแก้ว คือ แตกง่ายและมีน้ำหนักมาก ทำให้ไม่สะดวกในการขนส่งย้ายและเกิดความเสียหายสูง กระบวนการผลิตอาหารจึงมาใช้กระป๋องและเป็นที่นิยมในเวลาต่อมาจนถึงปัจจุบัน
กระป๋องโลหะมีสมบัติเด่นที่สามารถทดแทนบรรจุภัณฑ์แก้วได้ในกระบวนการแปรรูปด้วยความร้อนคือสามารถทนความร้อนและความดันสูงและยอมให้อากาศผ่านได้น้อย แต่มีน้ำหนักเบากว่าแก้วและไม่แตก แต่บุบได้ทำให้เวลาต่อมาจึงเริ่มหันมีเทคโนโลยีบรรจุภัณฑ์ประเภทพลาสติกอ่อนตัวที่ทนความร้อนและแรงดันได้ หรือเรียกกันว่า "ถุงรีทอร์ท" (retort pouch) ที่ไม่แตก ไม่บุบ เสียหาย ทั้งยังมีน้ำหนักเบากว่ากระป๋องโลหะ และประหยัดเนื้อที่ในการขนส่งซึ่งหมายถึงประหยัดค่าใช้จ่ายได้อีกทางหนึ่ง
นอกจากหน้าที่การแปรรูปอาหารแล้ว การบรรจุยังมีหน้าที่ในการสื่อสาร คำว่าสื่อสารในที่นี้รวมทุกอย่างที่เกี่ยวข้องทั้งทางตรงและทางอ้อม ตั้งแต่การสื่อสารจากข้อมูลที่อยู่บนบรรจุภัณฑ์ รูปร่างลักษณะของตัวบรรจุภัณฑ์เอง รวมถึงสีและภาพที่ใช้บนบรรจุภัณฑ์ หน้าที่ของบรรจุภัณฑ์ในข้อนี้สามารถใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการส่งเสริมการขายผลิตภัณฑ์ จึงมีคนให้คำจำกัดความว่าบรรจุภัณฑ์เป็นผู้แทนขายแบบเงียบๆ (packaging is a silent salesman)
หน้าที่ของบรรจุภัณฑ์มีอีกหลายประการ แต่ที่สามารถจัดไว้ด้วยกันอีกกลุ่มก็คือ หน้าที่ในการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นความสะดวกในการเปิดและปิด สามารถปิดเปิดซ้ำได้ สามารถอุ่นได้ในเตาไมโครเวฟ เพิ่มความสะดวกในการบริโภค เป็นต้น ในปัจจุบันหน้าที่นี้ถือเป็นหน้าที่เด่นของการบรรจุหรือบรรจุภัณฑ์ที่ผู้ใช้หรือผู้บริโภคให้ความสำคัญอย่างมาก ซึ่งจะทำให้ผลิตภัณฑ์มีแต้มต่อเหนือคู่แข่งได้
จากหน้าที่กล่าวมาแล้วนั้นจะเห็นได้ว่าการบรรจุมีความสำคัญและเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับผลิตภัณฑ์เกือบทุกประเภท นั่นหมายความว่าอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ต้องพึ่งพาบรรจุภัณฑ์ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอาหาร ซึ่งถือว่าเป็นลูกค้าร้ายใหญ่สุดของอุตสาหกรรมการบรรจุ อุตสาหกรรมอาหารเป็นอุตสาหกรรมใหญ่ทั่วโลก มนุษย์เรายังคงแสวงหาผลิตภัณฑ์อาหารที่มีคุณภาพและความปลอดภัยสูง ซึ่งรวมถึงคุณภาพทุกด้าน ตั้งแต่ลักษณะปรากฏ สี กลิ่น รส เนื้อสัมผัส ผู้บริโภคยังเริ่มให้ความสำคัญกับคุณค่าทางโภชนาการและสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกด้วย ทั้งคุณภาพและความปลอดภัยนี้ล้วนเกี่ยวข้องกับการบรรจุ
บรรจุภัณฑ์มีส่วนในการช่วยรักษาคุณภาพของอาหารและมีความสัมพันธ์กับอายุการเก็บรักษาอาหารอย่างใกล้ชิด ปัจจัยแรกคือชนิดของวัสดุบรรจุ วัสดุที่ใช้ทำบรรจุภัณฑ์ที่สำคัญคือ แก้ว กระดาษ โลหะ และ พลาสติก วัสดุแต่ละชนิดมีข้อดีข้อด้วยแตกต่างกัน ดังที่ได้กล่าวถึงข้างต้นเกี่ยวกับหน้าที่ของบรรจุภัณฑ์ในการแปรรูปอาหาร ในระยะหลังจนถึงปัจจุบันการนำพลาสติกมาใช้แทนวัสดุบรรจุประเภทอื่นๆ มาก เนื่องจากจากจุดเด่นของพลาสติกก็คือมีสมบัติหลากหลาย สามารถเลือกใช้ได้ตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการได้อย่างกว้างขวาง ซึ่งอาหารแต่ละชนิดมีความต้องการที่แตกต่างกันนอกจากนั้นยังมีน้ำหนักเบาใช้พลังงานในการผลิตต่ำ เมื่อเทียบกับการผลิตแก้วและโลหะ และเมื่อผลิตเป็นปริมาณมากๆ จะมีราคาถูก อย่างไรก็ตามในปัจจุบันปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นปัญหาสำคัญทั่วโลก การใช้พลาสติกที่ผลิตจากปิโตรเคมีมีแนวโน้มลดลง เริ่มมีการพัฒนาเทคโนโลยีและหันมาใช้พลาสติกที่ทำจากวัสดุธรรมชาติมากขึ้น