ขั้นตอนวิธีการปลูกข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์ : คุณค่าโภชนาการสูงและราคาดี

การผลิตข้าวอินทรีย์ไรซ์เบอร์รี่

การผลิตข้าวอินทรีย์ไรซ์เบอร์รี่ เป็นระบบการผลิตข้าวที่ไม่ ใช้สารเคมีทางการเกษตรทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น ปุ๋ยเคมี สาร ควบคุมการเจริญเติบโต สารควบคุมและกำจัดวัชพืช สาร ป้องกันกำจัดโรค แมลงและสัตว์ศัตรูข้าว ตลอดจนสารเคมีที่ใช้ รมเพื่อป้องกันกำจัดแมลงศัตรูข้าวในโรงเก็น การผลิตข้าว อินทรีย์ไรซ์เบอร์รี่ นอกจากจะทำให้ได้ผลผลิตข้าวที่มี คุณภาพสูงและปลอดภัยจากสารพิษแล้ว ยังเป็นการอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติและเป็นการพัฒนาการเกษตรแบบยั่งยืนอีก ด้วย

การผลิตข้าวอินทรีย์ไรซ์เบอร์รี่ มุ่งเน้นในเรื่องของ ธรรมชาติเป็นสำคัญ ได้แก่ การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมขาติ การ ฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ การรักษาสมดุลธรรมชาติ และการใช้ประโยชน์จากธรรมชาติ เพื่อการผลิตอย่างยั่งยืน เช่น ปรับปรุงความอุดมสมบูรณ์ของดินโดยการปลูกพืช หมุนเวียน การใช้ปุ๋ยอินทรีย์จากกระบวนการผลิตมูลไส้เดือน ภายในแปลงนาของเราเองโดยเฉพาะ ควบคุมโรค แมลงและสัตว์ ศัตรูข้าวโดยวิธีผสมผสานที่ไม่ใช้สารเคมี เพื่อให้ต้นข้าว เจริญเติบโตได้ดี มีความสมบูรณ์แข็งแรงตามธรรมชาติ และ

ให้ผลผลิตสูงในระดับที่น่าพอใจ

ขั้นตอนการปลูกข้าวอินทรีย์ไรซ์เบอร์รี่

1. การเลือกพื้นที่ปลูก

อุดมสมบูรณ์ของดินโดยธรรมชาติ ค่อนข้างสูง อยู่ห่างจากถนน สายหลักประมาณ ๑๐๐ ถึง ๒๐๐ เมตร เพื่อลดมลพิษทางอากาศ ส่งผลให้พื้นที่ของ ปราศจากสารพิษจากควันท่อไอเสียและมลพิษทางอากาศ อย่างสิ้นเชิง ทั้งแปลงนาล้อมรอบด้วยพืชกันชนและคลอง เก็บน้ำในแปลง เพื่อให้เป็นพื้นที่บริสุทธิ์ในการผลิตข้าวอินทรีย์สมบูรณ์แบบ

2. การเลือกใช้พันธุ์ข้าว

เลือกพันธุ์ข้าวไรไรซ์เบอร์รี่ที่ดีที่สุด โดยใช้เมล็ดพันธุ์ จากแหล่งที่ เชื่อถือได้ เป็นการเฉพาะ เช่น พันธุ์ที่ได้รับการอนุญาตจาก มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กำแพงแสน นำมาปลูกหมุนเวียน ตลอดมาโดยไม่ใช้ พันธุ์ซ้ำ จะทำให้แปลง สะอาด บริสุทธิ์ ปราศจากพันธุ์ปนอย่างแท้จริง

3. การเตรียมดิน

หลักของการผลิต เพราะถ้าเตรียมไม่ดีพอจะส่งผลเสียมหาศาลในการผลิตคราวนั้นๆและคราวต่อๆไป เรา จึงต้องปรับสภาพดินให้เหมาะสมที่สุดต่อการปลูกและการ เจริญเติบโตของข้าว โดยการหมักตินด้วยจุลินทรีย์ที่เราผลิต เองตามคำแนะนำของกรมการพัฒนาที่ดิน เพื่อให้ช่วยควบคุม วัชพืช โรค แมลงและสัตว์ศัตรูข้าวบางชนิด จากนั้นจึงไถดะ ไถ แปร คราด และทำเทือก

4. วิธีปลูก

การปลูกข้าวอินทรีย์ไรซ์เบอร์รี่ใช้วิธี ปักดำ ซึ่งเป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุดในการผลิตข้าวอินทรีย์ เพราะการ เตรียมดิน ทำเทือก การควบคุมระดับน้ำในนาจะช่วยลดปริมาณ วัชพืชได้ และการปลูกกล้าข้าวลงดินจะช่วยให้ข้าวสามารถ แข่งขันกับวัชพืชได้ ต้นกล้าที่ใช้ปักดำ มีอายุประมาณ๒๐ วัน เป็นต้นกล้าที่เจริญเติบโตแข็งแรงดี ปราศจากโรคและแมลง ทำลาย

5. การจัดการความอุดมสมบูรณ์ของดิน

มีประโยชน์ เพิ่มอินทรียวัตถุให้กับดินโดยการปลูกพืช โดยเฉพาะพืชตระกูลถั่วในที่ว่างในบริเวณ

พื้นที่นาตามความเหมาะสม แล้วใช้อินทรียวัตถุที่เกิดจากการ เลี้ยงไส้เดือน ทั้งมูลและน้ำเลี้ยง บำรุงทั่วแปลงนาอย่างต่อเนื่อง ทั่วทั้งแปลงจึงอุดมสมบูรณ์ สังเกตได้จากมูลไส้เดือนกระจายตัว อยู่ทั่วไป

ขั้นตอนการจัดการความอุดมสมบูรณ์ของดิน

2. น้ำหมักชีวภาพ หรือน้ำสกัดชีวภาพ Bio Extract) เราทำ ใช้เองจากวัสดุเหลือใช้ในไร่นา ในครัวเรือน นำมาหมักร่วมกับ กากน้ำตาล (Mollass) ละลายน้ำ

3. น้ำสกัดจากพืช ผลไม้ได้แก่ผ้าต่างๆ โบสะเดา ตะไคร้ หอม พืชสมุนไพรต่างๆ มะม่วง สับปะรด กล้วย มะละกอพักทอง น้ำสกัดจากสัตว์ ได้แก่ ไส้ปลา หอยเชอรี่ เป็นต้น

4. การใช้อินทรียวัตถุบางอย่างทดแทนปุ๋ยเคมี ใช้แหนแดง หว่านทั่วแปลงเพื่อเพิ่มธาตุอาหารในดินตลอดเวลา

วิธีใช้น้ำหมักในนาข้าวอินทรีย์ไรซ์เบอร์รี่

ครั้งที่ 2 ระยะข้าวแตกกอหรือหลังจากปักดำข้าวไปแล้ว 30 วัน ใช้น้ำหมักจากเนื้อ อัตรา 5 ลิตรต่อไร่ผสมน้ำเปล่า เท่ากันกับครั้งที่ 1 ราดให้ทั่ว

ครั้งที่ 3 ระยะข้าวเริ่มตั้งท้องใช้น้ำหมักผลไม้ อัตรา 250 ซีซี/ไร่ ผสมน้ำเปล่า 50 เท่าพ่นทั่วแปลง ครั้งที่ 4 และ 5 ฉีด พ่นด้วยน้ำหมักจากผลไม้ หลังจากครั้งที่ 3 เป็นเวลา 15 และ 30 วัน

ข้าวไรซ์เบอรี่หุงอย่างไรให้อร่อยน่าทาน

เทคนิคง่ายๆอีกอย่างที่จะแนะนำ คือ การนำข้าวไรซ์ เบอรี่แช่น้ำก่อนหุง 30 - 60 นาที เนื่องจากการแข่ข้าวไว้ ก่อนและนำมาหุงนั้นจะทำให้หุงข้าวสุกเร็ว

กว่าข้าวที่ไม่ได้แช่ และข้าวที่สุกจะหอมนุ่ม สำหรับการใส่น้ำ ให้ใส่น้ำเท่ากับการหุงข้าวหอมมะลิหรือจะมากกว่าก็ได้ โดย อาจจะใช้อัตราส่วนเป็นข้าว 1 ส่วน ต่อน้ำ 1 : 5 ส่วน ขึ้นอยู่กับความชอบของคนรับประทาน หลังจากข้าวสุกแล้ว ให้ทิ้ง ไว้ในหม้ออีกประมาณ 10 นาที แล้ว จึงนำมา รับประทาน ข้าวไรซ์เบอรี่จะนุ่มนวล มีกลิ่นหอม อร่อย และ นารับประทานมาก

การแปรรูปข้าวไรซ์เบอรี่

ประโยชน์ข้าวไรซ์เบอรี่

1. อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ มี แอนโทไซยานิน (Anthocyanin) ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง เช่น มะเร็ง เบาหวาน และโรคหัวใจ

2. ดีต่อหัวใจและหลอดเลือด มีโอเมก้า 3 และ สารฟีนอลิก ช่วยลดคอเลสเตอรอลและลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ

3. ควบคุมน้ำตาลในเลือดมี ค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ (Low GI) ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดไม่พุ่งสูงเร็ว เหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน

4. บำรุงสายตาและผิวพรรณ มีวิตามิน E และสังกะสี (Zinc) ช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์และบำรุงสายตา

5. ช่วยระบบขับถ่าย มีไฟเบอร์สูง ช่วยป้องกันอาการท้องผูก และทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น

6. ช่วยควบคุมน้ำหนัก มีคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ทำให้อิ่มนาน ลดการกินจุบจิบ

7. บำรุงสมองและความจำ มีวิตามิน B และแมกนีเซียม ช่วยบำรุงระบบประสาทและลดความเครียด

กลุ่มที่ได้รับประโยชน์ข้าวไรซ์เบอรี่

กลุ่มผู้สูงอายุ จะช่วยบำรุงร่างกาย เสริมสร้าง ประสิทธิภาพในการไหลเวียนของโลหิต ชะลอความแก่ บำรุงสายตาและระบบประสาท

ผู้ป่วยโรคเบาหวานและโรคอ้วน สามารถควบคุมน้ำตาล และน้ำหนักได้ เพราะมีดัชนีน้ำตาลต่ำกว่าข้าวทั่วไป

คนที่เป็นโรคโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก หาก รับประทานข้าวไรซ์เบอรี่เป็นประจำแล้วจะได้สารอาหาร โดยเฉพาะธาตุเหล็กธรรมชาติซึ่งจะช่วยในการบำรุงโลหิต และบำรุงร่างกายให้แข็งแรง