กัญชาเป็นพืชสมุนไพรที่มีประโยชน์ แต่ถ้าใช้ไม่เป็นก็มีโทษมหันต์ การใช้ต้องอยู่ภายใต้การควมคุม แพทย์ที่สั่งจ่ายยาต้องผ่านการอบรมการใช้กัญชาทางการแพทย์และมีใบอนุญาติ กรมการแพทย์แผ่นไทยได้จัดการอบรม การใช้กัญชาแพทย์แผ่นไทย-หมอพื้นบ้าน ทั่วประเทศ จำนวนเกือบ 4,000 คน และมีการเตรียมทำตำรับยา และ เครื่องยากลาง กระจายให้โรงพยาบาลใช้ปรุงและรักษาคนป่วย
สถาบันการแพทย์แผนไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการด้านการประเมินรับรองตำรับยาแผนไทยที่มีกัญชาและกระท่อมและการใช้ยาแผ่นไทยทีมีกัญชาและกระท่อมปรุงผสมอยู่ ได้จัดทำร่างเกณฑ์การพิจารณารับรอง ตำรับยาปรุ่งเฉพาะรายที่มีกัญชาผสมของหมอพื้นบ้าน เสนอต่อคณะกรรมการอำนวยการนำกัญชามาใช้ทางการแพทย์มีอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทย และการแพทย์ทางเลือกพิจารณาก่อนส่งต่อให้คณะกรรมการยาเสพติด พิจารณาต่อไป
เกณฑ์รับรองตำรับยากัญชา มี 5ข้อ คือ
1. เป็นตำรับยาที่มีส่วนผสมของกัญชา
2. มีแหล่งความรู้ที่อ้างอิง หรือมีความสอดคล้องกับหลักเกณฑ์การตั้งสูตรตำรับและกรรมวิธีการปรุงยาตามองค์ความรู้การแพทย์แผนไทยหรืออื่นๆ เช่น ตำรา คัมภีร์ ครูหมอ ตำรับยาแผนไทยของชาติที่คณะกรรมการ เห็นสมควร
3. มีประสบการณ์ในการใช้ตำรับยาผสมกัญชาและพึงมีหลักฐานที่แสดงถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัย
4. ควรพิจารณาตำรับยาสมุนไพรที่เป็นวัตถุอันตรายตามเกณฑ์แสดงถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัย
5. หลักเกณฑ์อื่นๆ ตามที่คณะกรรมการเห็นสมควร
การแพทย์แผ่นไทยและการแพทย์ทางเลือกได้เปิดการอบรมผู้ที่มีสิทธิ์สั่งใช้กัญชาทางการแพทย์แผ่นไทยในพื้นที่กรุงเทพเพื่อสร้างวิทยากรการใช้กัญชาทางการแพทย์แผ่นไทย ไปจัดอบรมต่อพร้อมกันทั่วประเทศ 13เขตสุขภาพ ตลอดจนมีการจัดอบรมพร้อมกันทั่วประเทศ ทั้งส่วนกลางและเขตสุขภาพ 13 แห่ง โดยผู้เข้ารับการอบรมต้องเป็นแพทย์แผนไทย ที่มีใบประกอบวิชาชีพสาขาเวชกรรมไทยต้องผ่านกาทดสอบความรู้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 จึงจะได้รับประกาศนียบัตรเป็นผู้ผ่านการอบรมหลักสูตร การใช้ตำหรับยาแผนไทยที่มีกัญชาปรุงผสมอยู่ ต่อจากนี้จะส่งรายชื่อผู้ที่ผ่านการอบรมไปให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อขึ้นทะเบียนให้เป็นผู้มีสิทธิ์สั่งใช้
ขณะนี้มีตำรับยาสมุนไพรที่มีกัญชาปรุงฟสมอยู่จำนวน 16 ตำรับและกรมการแพทย์แผ่นไทยเคาะผ่าน 10 ตำรับยากัญชาจากตำรับยาที่ส่งมาให้พิจารณะ 59ตำรับจาก 22 จังหวัด ระบุหมอพื้นบ้านผู้ยื่นคำขอรับยาเท่านั้นที่ใช้ได้ คนอื่นทำได้แค่เอาไปวิจัย