แอล-กลูต้าไธโอน เพื่อผิวขาวกระจ่างใส
และประโยชน์สรรพคุณมากมาย
จำหน่ายขายส่งแอล-กลูต้าไธโอน L-Glutathione

แอล-กลูต้าไธโอน : L-Glutathione


ผู้ผลิตนำเข้าและจำหน่ายขายส่งแอล-กลูต้าไธโอน L-Glutathione

รหัสสินค้า
wbc001
ชื่อสินค้า
แอล-กลูต้าไธโอน
ชื่อสินค้าภาษาอังกฤษ
L-Glutathione
ขนาดบรรจุ
1Kg, 5Kg, 10Kg, 25Kg
หมวดหมู่
สารสกัดจากธรรมชาติ
ใช้สำหรับ
ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม, ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง
การจัดส่ง
ทัวประเทศ

เจาะลึก "กลูต้าไธโอน" เพื่อผิวขาวกระจ่างใส

ในยุคปัจจุบันผู้หญิงส่วนใหญ่ให้ความสนใจด้านความงานเป็นอย่างมากโดยเฉพาะเรื่องผิว ผู้หญิงไทยหลายๆคนมีความไม่พึงพอใจกับการที่เกิดมามีผิวพรรณที่สีเข้ม คล้ำ ดำ หรือไม่กระจ่างใสจึงค้นหาวิธีการต่างๆ เพื่อที่จะทำให้ผิวพรรณของตนเองนั้นขาวใส ตัวเลือกที่เป็นวิธีที่นิยมมากที่สุดในยุคปัจจุบันนี้คือการรับประทานหรือการฉีดกลูตาไธโอนเข้าสู่ร่างกาย ทำให้มีผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อผิวขาวออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก ซึ่งสารที่ได้รับความนิยมมากได้แก่ กลูต้าไธโอน ในวงการของอาหารเสริม มีการนำสารกลูต้าไธโอนมาทำเป็นยาเม็ด แคปซูล และทำเป็น อาหารเสริมเจลลี่  อาหารเสริมกัมมี่ เพื่อใช้ในการรับประทานเป็นอาหารเสริม โดยหวังผลว่าประโยชน์ของกลูต้าไธโอนจะสามารถเสริมและทดแทนปริมาณกลูต้าไธโอนที่ร่างกายมีไม่พอบกพร่องไป อันเนื่องมาจากปัจจัยต่างๆ
กลูต้าไธโอน สารเพิ่มความขาวกระจ่างใสสำหรับผิวพรรณ

กลูต้าไธโอน (Glutathione) คืออะไร มาทำความรู้จักกัน

กลูต้าไธโอน (Glutathione) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่เซลในร่างกายมนุษย์สามารถสังเคราะห์ได้เองจากอาหาร เช่นเนื้อสัตว์ ผักผลไม้ต่างๆ กลูต้าไธโอนมีประโยชน์และคุณสมบัติเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งประกอบด้วยกรดอะมิในที่สำคัญ 3ชนิดรวมตัวกันอยู่ คือ ซิสเตอิน (Cystein) ไกลซิน (Glycine) และ กลูตาเมท (Glutamate) ทำหน้าที่ในการปกป้องเนื้อเยื่อไม่ให้ถูกทำลายโดยสารต้านอนุมูลอิสระที่สะสมอยู่ตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย กระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกายและที่สำคัญยังช่วยตับในการทำลายและขจัดพิษออกจากร่างกายอีกด้วย
กลูต้าไธโอน เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่เซลสังเคราะห์ได้เองจากอาหาร

ประโยชน์และสรรพคุณของกลูต้าไธโอน

1. Antioxidation : จะถูกเปลี่ยนไปเป็นเอนไซม์ Glutathione Peroxidase มีคุณสมบัติเป็นสาร Antioxidant ที่สำคัญของร่างกาย ช่วยลดความเสื่อมของเซลล์ต่างๆในร่างกาย
2. Detoxitication : ช่วยสร้างเอนไซม์ชนิดต่างๆในร่างกาย โดยเฉพาะ Glutathione-S-transferase ที่ตับ ช่วยในการกำจัดสารพิษออกจากร่างกายโดยไปเปลี่ยนสารพิษ ชนิดไม่ละลายน้ำ(ละลายในน้ำมัน) เช่น พวกโลหะหนัก สารระเหย ยาฆ่าแมลง แม้แต่ยาบางชนิด ให้เป็นสารที่ไม่อันตราย และละลายน้ำได้ดีขึ้นแล้วขับออกจากร่างกาย นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันตับจากการถูกทำลายโดยแอลกอฮอล์การสะสมของ Acetaldehyde(ทำให้เกิดอาการเมาค้าง) บุหรี่ และยา
3. Immune Enhancer : จะส่งผลในการเพิ่มความสามารถในการกำจัดสิ่งแปลกปลอมและเชื้อโรคของเม็ดเลือดขาว ชนิด Neutrophils และยังเพิ่มความสามารถในการทำงานของ เซลล์ที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิต้านทานของร่างกายด้วยทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันเพิ่มมากขึ้น
4. Beauty and Whitening : รังสี UV-A และ UV-B ในแสงแดดเป็นตัวกระตุ้นการสร้างเม็ดสีเมลานินและอนุมูลอิสระ ทำลายเซลล์ผิว ทำให้ผิวหมองคล้ำ เกิดจุดด่างดำและเกิดฝ้า L-Glutathione (แอล กลูต้าไธโอน) มีคุณสมบัติช่วยในการต่อต้านกลไกของอนุมูลอิสระ ที่ทำให้เกิด Lipid peroxide ซึ่งเป็นต้นเหตุของการเกิดฝ้า นอกจากนี้ Glutathione (กลูต้าไทโอน) ยังไปยับยั้งการทำงานของเอ็นไซม์ Tyrosenase ส่งผลให้เม็ดสีเมลานินไม่ถูกสร้างขึ้น ทำให้ผิวค่อยๆขาวขึ้น
5. Male Fertity : ทำให้ Sperm เคลื่อนที่ได้และลดอัตราการตายของ Sperm ด้วย

แม้ว่าร่างกายสามารถผลิต กลูต้าไธโอน ได้เอง และยังสามารถได้รับจากอาหารจำพวกผัก ผลไม้ และเนื้อสัตว์ แต่สภาพแวดล้อมในปัจจุบัน เช่น แสงแดด, มลภาวะ ฝุ่น ควัน, การรับประทานอาหารไม่ครบ 5 หมู่ และความเครียด มีผลทำให้ร่างกายได้รับกลูต้าไธโอนไม่เพียงพอต่อการนำไปใช้ประโยชน์ต่างๆได้อย่างเต็มที่
กลูต้าไธโอนช่วยลดความเสื่อมของเซลล์ กำจัดสารพิษ เพิ่มภฺมิคุ้มกัน ทำให้ผิวขาว

ประโยชน์ทางการแพทย์ของกลูต้าไธโอน

- ฤทธิ์ต้านออกซิเดชันของกลูต้าไธโอน
- การลดความเป็นพิษของยาด้วยกลูต้าไธโอนและวิตามินซี
- การกำจัดโลหะหนักด้วยกลูตาไธโอนหรือ N-Acetylcysteine และยังมีรายงานการนำสารกลูต้าไธโอนมาใช้เป็นยารักษาโรคหลายกรณี อาทิ ระบบประสาทบกพร่อง โรคพากินสัน โรคอัลไซเมอร์ โรคสมองเสื่อม โรคปลายเส้นประสาทอักเสบ โรคมะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งต่อมลูกหมาก รักษาความเป็นพิษจากโลหะหนัก ช่วยชะลอวัย และเป็นยาอยุวัฒนะ

กลูต้าไธโอนกับกลไกการเกิดสีผิว

สีผิวของมนุษย์เกิดจากเม็ดสีที่เรียกว่าเมลานิน (Melanin) ซึ่งเป็นโพลิเมอร์ที่ไม่ละลายน้ำกระจายตัวอยู่ในชั้นผิวเม็ดสีที่อยู่ในผิวหนัง มีหน้าที่สำคัญในการปกป้องผิวหนังจากอันตรายของ แสง UV แสงจากพระอาทิตย์โดยการดูดกลืนรังสี UV แล้วเปลี่ยนพลังงานให้เป็นความร้อน เมลานินถูกผลิตขึ้นจากกรดอะมิโนที่ชื่อ ไทโรซีน (Tyrosine) โดยทั่วไปมี 2ชนิด คือ ยูเมลานิน (Eumelanin) และ ฟีโอเมลานิน (Pheomelanin)
1. ยูเมลานิน (Eumelanin) มีรูปร่างกลม เรียบไม่ละลายน้ำ ประกอบด้วย Crosslinked 5,6-dihy-droxyindole (DHI) และ 5,6-dihydroxyindole-2-carboxylic acid (DHICA) ซึ่งจำแนกได้เป็น 2ชนิด คือ Black eumelanin และ Brown eumelanin อาจเรียกว่า Black and Brown eumelanin
2. ฟิโอเมลานิน (Pheomelanin) มีรูปร่างไม่เรียบ ละลายในด่าง ประกอบด้วย 5-S-cyteinyldopa, 5-S-cysteinyldopa quinine และ Benzothaizine intermediates ลักษณะของฟีโอเมลานินจะมีสีแดง หรือสีเหลือง อาจจะเรียกว่า Red to Yellow pheomelanin
โดยปริมาณเม็ดสีที่กระจายตัวอยู่ในผิวหนังจะมีมากหรือน้อยเป็นลักษณะทางพันธุกรรม โดยที่ยูเมลานิน พบมากในคนผิวเข้ม ซึ่งส่วนใหญ่อาศัยอยู่บริเวณเส้นศูนย์สูตรซึ่งมีความเข้มของรังสี UV มาก ในขณะที่ฟีโอเมลานิน พบในคนผิวขาว ซึ่งได้รับปริมาณรังสี UV น้อยกว่า
สารกลูตาไธโอนที่เข้าสู่ร่างกาย จะทำหน้าที่กระตุ้นให้กรดอะมิโน Tyrosine เปลี่ยนรูปเป็นฟีโอเมลานินในปริมาณที่มากขึ้น หรืออาจกล่าวอีกในหนึ่งว่า สารกลูต้าไธโอนจะเปลี่ยนเม็ดสียูเมลานินให้กลายเป็นฟีโนเมลานิน ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ที่ได้รับสารดังกล่าวมีสีผิวที่ขาวขึ้น
จากกลไกดังกล่าว จึงมีการคิดนำเอาสารชนิดนี้มาเป็นอาหารเสริมในรูปแบบต่างๆ โดยหวังว่าจะสามารถเสริมและเพิ่มความเข้มข้นของกลูต้าไธโอนในกระแสเลือดให้มากขึ้นเพื่อหวังผลให้ผิวขาวอบชมพู แต่ในความเป็นจริงอาหารเสริมที่มีสารกลูต้าไธโอนนั้นมีผลทำให้ผิวขาวได้ไม่ค่อยมากจึงมีการดับแปลงโดยการฉีดเข้าเส้นเลือด หรือเข้ากล้ามเนื้อ
การเสริมสร้างกลูต้าไธโอน
การฉีด เนื่องจากตัวยากลูต้าไธโอนมีความไม่คงตัวในกระแสเลือดสลายตัวได้ง่ายและรวดเร็ว ดังนั้นผู้ที่หวังผลในการรักษาจะต้องให้แพทย์ฉีดบ่อยๆ เช่น ในกรณีของการฉีดเข้าเส้นเลือดดำเพื่อหวังผลให้สีผิวมีความขาวใส โดยมากแพทย์มักจะฉีดร่วมกับวิตามินซี หากฉีดในความเข้มข้นสูงและฉีดอาทิตย์ละ 2ครั้ง นอกจากจะเสียเงินมากแล้วที่สำคัญการฉีดในความเข้มข้นสูงอาจทำให้เกิดการช็อคความดันต่ำเกิดอาการแพ้อย่างรุนแรงกล้ามเนื้อสั่นประสาทหรอ หายใจติดขัด หลอดลมตีม อาจเป็นนอันตรายถึงชีวิตได้และผู้ที่ได้รับยาฉีดนี้นานๆ เป็นประจำอาจทำให้เม็ดสีที่จอตาลดลงทำให้รับแสงได้น้อยลงเสี่ยงต่อการมองเห็นได้ในอนาคต ทางวารสารการแพทย์ในสหรัฐอเมริกาจึงจัดสารกลูต้าไธโอนเป็นสารที่อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงทางสายตา
การรับประทาน เนื่องจากโมเลกุลของกลูต้าไธโอนมีขนาดใหญ่เกินกว่าที่จะถูกดูดซึมในกระเพาะอาหารและทางเดินอาหาร นอกจากนี้โมเลกุลของกลูต้าไธโอนยังถูกสลายตัวได้ง่ายในทางเดินอาหารอีกด้วยจึงไม่สามารถรับประทานกลูต้าไธโอนได้โดยตรงดังนั้นจึงต้องทำเป็นลักษณะรูปแแบของอาหารเสริมในรูปแบบต่างๆ เช่น ยาเม็ด ยาแคปซูล ผงชงดื่ม เจลลี่ กัมมี่ ที่ผสมสารกลูต้าไธโอน แต่อาหารเสริมอาจจะไม่ได้ผลเท่าที่ควร
การทาผิว สารกลูต้าไธโอนเมื่อนำมาผสมในผลิตภัณฑ์ประเภทครีมหรือเจล สำหรับทาผิวหนังเพื่อหวังให้ผิวขาวนั้นจะไม่ค่อยได้รับประโยชน์ใดๆ เพาะโมเลกุลสารนี้ค่อนข้างใหญ่ไม่สามารถซึมผ่านผิวหนังได้

ข้อเสียของการที่ได้รับกลูต้าไธโอนมากเกินไป

ปริมาณกลูต้าไธโอนที่เหมาะสมในการรับเข้าไปในร่างกายควรอยู่ที่ 60-250 กรัม/วัน ซึ่งเป็นปริมาณที่แพทย์อนุญาต แต่ถ้าร่างกายได้รับสารกลูต้าไธโอนเป็นเวลานานๆ จะทำให้เม็ดเลือดสีเมลานินบริเวณผิวหนังและที่จอตามีปริมาณลดลงทำให้จอตารับแสงได้น้อยลงและเสี่ยงต่อการมองเห็นได้ในอนาคต ทางวารสารทางการแพทย์ของประเทศสหรัฐอเมริกาจึงจัดว่ากลูต้าไธโอนเป็นสารที่อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงทางตา ส่วนเม็ดสีเมลานินที่ผิวหนังจะทำหน้าที่เหมือนฟิล์มกรองแสงที่ผิวหนัง หากเม็ดสีที่ผิวหนังมีปริมาณลดลงร่างกายก็จะขาดเกราะป้องกันแสงอัลตราไวโอเลต UV ทำให้ผิวเหี่ยวย่นเร็วและแก่เร็วขึ้นรวมทั้งเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งผิวหนังอีกด้วย ดังนั้น ถึงแม้ตัวกลูต้าไธโอนเองจะเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระแต่การได้รับแสงอัลตราไวโอเลตในปริมาณมากกลับอันตรายยิ่งกว่าอนุมูลอิสระเสียอีก นอกจากนี้ยังพลอาการความดันต่ำ หอบหืดเฉียบพลันอีกด้วย ในบางรายอาจเกิดการแพ้ จากการปนเปื้อนหรือความไม่บริสุทธิ์ของสารนี้ดังนั้นจึงต้องระวังเป็นพิเศษสำหรัผู้ที่แพ้ยาฉีดกลูต้าไธโอน
ข้อควรระวังในการใช้กลูต้าไธโอนในหญิงตั้งครรภ์
แม้ว่ากลูต้าไธโอนจะถูกสังเคราะห์และพลมากในเกือบทุกเซลล์ในร่างกายคนเราแต่ไม่ได้หมายความว่าสารกลูต้าไธโอนจะปลอดภัยสำหรับผู้หญิงตั้งครรภ์และหญิงที่อยู่ในระหว่างการให้นมบุตร สารจากธรรมชาติมากกมายที่ก่อให้เกิดอาการข้างเคียงในหญิงตั้งครรภ์ ดังนั้นในทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงการใช้สารเหล่านี้เป็นอาหารเสริมในระหว่างตั้งครรภ์จะปลอดภัยที่สุด นอกเสียจากว่าได้รับการแนะนำให้ใช้ด้วยเหตุผลทางการแพทย์เป็นพิเศษ

กลูต้าไธโอนเป็นสารที่มีอยู่แล้วในร่างกายและมีความสำคัญต่อกระบวนการต่างๆ อีกทั้งยังเป็นสารต้านออกซิเดชันที่ใช้ในการรักษาเสริมสำหรับโรคต่างๆ เช่น โรคมะเร็ง โรคหลอดเลือดและหัวใจ โรคจิตเภท โรคเอดส์ โรคสมองเสื่อม เป็นต้น อย่างไรก็ตามไม่ควรใช้กลูต้าไธโอนหรือสารอื่นๆ ที่มีฤทธิ์เพิ่มระดับกลูต้าไธโอนในร่างกายโดยไม่จำเป็นเพราะอาจจะเกิดอันตรายได้ ดังนั้นก่อนจะใช้กลูต้าไธโอนหรือสารอื่นๆ ควรศึกษาทั้งข้อดีและข้อเสียรวมถึงผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นเพื่อประเมินความปลอดภัยและพิจารณาความจำเป็นในการใช้เสียก่อน

อาหารที่มีกลูต้าไธโอนสูง

1. เนื้อสัตว์ ได้แก่ ปลาแซลมอน, เนื้อวัว, เนื้อหมู
2. ผลไม้ ได้แก่  เกรปฟรุ้ต, แอปเปิ้ล, องุ่น, แตงโม, ส้ม, สตรอเบอร์รี่
3. ผัก ได้แก่ บีทรูท, อะโวคาโด, บร็อกโคลี่, ผักโขม, เห็ด, มะเขือเทศ, หน่อไม้ฝรั่ง, ถั่วเหลือง, ถั่วลันเตา
4. อาหารอื่นๆ ได้แก่ โยเกิร์ต, ไข่, นม
จะเห็นได้ว่ากลูต้าไธโอนนั้นมีอยู่ตามธรรมชาติในอาหารหลากหลายประเภท โดยเฉพาะในผักและผลไม้ แต่ทั้งนี้ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานพวกผักและผลไม้ดอง หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่างๆ เพราะไม่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย
อาหารที่มีกลูต้าไธโอนสูง เนื้อ ผัก ผลไม้

ประโยชน์สารสกัดที่เกี่ยวข้อง

โคเอนไซม์ คิวเทน พบได้ในทุกเซลล์ของร่างกายที่มีชีวิต และมีความจำเป็นต่อร่างกาย โดยโคเอนไซม์ คิวเทน เป็นสารที่มีคุณสมบัติละลายในไขมัน
Coenzyme Q10
โคเอนไซม์ คิวเทน
สารสกัดเบอร์รี่ช่วยป้องกันสารพิษที่จะเข้าสู่ร่างกาย ช่วยชะลอความแก่ชรา และที่สำคัญคือช่วยป้องการสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งได้
Berry Powder
สารสกัดจากเบอร์รี่
สารสกัดผลไม้สีแดง มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยป้องกันโรคมะเร็งได้
Red fruit Powder
สารสกัดจากผลไม้แดง
สารสกัดเปลือกของต้นสนมาริไทม์มีชื่อทางการค้าเป็นรู้จักว่า พิกโนจีนอล
Pine bark Extract
สารสกัดจากเปลือกสน
CONTACT
169/47 ถ.พุทธมณฑลสาย 4 ต.กระทุ่มล้ม  อ.สามพราน จ.นครปฐม 73220
086-070-0007
ananindustry@gmail.com
https://www.ananindustry.com
WORKING DAYS/HOURS
วันจันทร์ - วันเสาร์
8.00 - 17.00 น.
Copyright © 2008 Anan Industry Company Limited. All Rights Reserved