ข้อพิจารณาการขยายตลาดซอสปรุงรสในอเมริกา
1. ภาวะการแข่ง่ขันของตลาดซอสปรุงรสอาหารอยู่ในระดับปานกลางในระหว่างกลุ่มผู้ประกอบการในสหรัฐ ปัจจุบันซอสปรุงรสอาหารจากเอเซียเป็นที่ได้รับความนิยมบริโภคเพิ่มขึ้นในตลาดสหรัฐ ผู้ประกอบการในสหรัฐหลายราย เช่น บริษัท Kikkoman (สหรัฐ), บริษัท Mcllhenny Co (ผู้ผลิตซอสเผ็ด Tabasco), บริษัท Nestle, McCormick ได้เข้าร่วมวงผลิตซอสศรีราชา และซอสพริกหวานแข่งขันกับตลาดซอสของเอเซีย ซึ่งจะเป็นการเพิ่มภาวะการแข่งขันให้กับสินค้านำเข้า
2. โอกาสการขยายตลาดซอสปรุงรสอาหารไทยในสหรัฐ แยกสินค้าเป็น 2กลุ่ม คือ (1) สินค้าซอสปรุงแบบดั้งเดิม ซึ่งผู้ผลิต/ส่งออกไทยอาจจะพิจารณาขยายการผลิตให้ครอบคลุมซอสปรุงรสที่นอกเหนือไปจากซอสไทย หรือ (2) ผลิตภัณฑ์ใหม่ หรือสินค้าซอสปรุงรสดัดแปลงหรือที่เรียกว่า "ซอสฟิวชั่น" เช่น ซอสผสมน้ำผึ่ง ผสมมัสตาร์ด หรือ มายองเนส กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน โดยนำซอสดังกล่าวมาผสมผสานกับซอสไทย ซึ่งจะเป็นการสร้างโอกาศให้แก่ซอสปรุงรสของไทยเพิ่มมากขึ้น
3. ไม่เพียงแต่การแนะนำผลิตภัณฑ์แบบใหม่ๆ ผู้ผลิต/ส่งออกไทยควรจะมุ่งในเรื่องบรรจุภัณฑ์ของสินค้า บรรจุภํณฑ์ เป็นปัจจัยสำคัญในการดึงดูดผู้บริโภคในการตัดสินใจซื้อสินค้า ดังนั้นรูปแบบบรรจุภัณฑ์แบบใหม่ๆ จะครอบคลุมในเรื่อง ความหลากหลายของขนาด บริมาตรบรรจุ การออกแบบ และ ความเหมาะสมในการใช้
4. การผลิตซอสควรคำนึงถึงการผสมผสานส่วนผสมจากธรรมชาติเข้ากับผลิตภัณฑ์ การนำเสนอซอสปรุงรสชาติแบบอินทรีย์ หรือ วีแกน หรือ กลูเตนฟรี เพื่อสนองความต้องการของผู้บริโภคในกลุ่มให้ความสำคัญต่อสุขภาพ
5. สินค้าซอสปรุงรสของไทยส่วนใหญ่ได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีนำเข้าหรือเป็นสินค้า "จีเอสพี" ยกเว้นซีอิ้ว (Soy Sauce) ซึ่งถูกเพิกถอนจีเอสพีไปเมื่อเดือนตุลาคม 2562 ดังนั้น จึงน่าจะเป็นปัจจัยช่วยผลักดันในการเพิ่มมูลค่าการนำเข้าและเพิ่มการบริโภคซอสปรุงรสของไทย