มารู้จัก สารสกัดโคลีน ไบทาร์เทรต
ประโยชน์สรรพคุณมากมาย
จำหน่ายขายส่งสารสกัดโคลีน Choline Bitartrate

สารสกัดโคลีน ไบทาร์เทรต : Choline Bitartrate


ผู้ผลิตนำเข้าและจำหน่ายขายส่งสารสกัดโคลีน ไบทาร์เทรต Choline Bitartrate

รหัสสินค้า
sqc004
ชื่อสินค้า
สารสกัดโคลีน ไบทาร์เทรต
ชื่อสินค้าภาษาอังกฤษ
Choline Bitartrate
ขนาดบรรจุ
1Kg, 5Kg, 10Kg, 25Kg
หมวดหมู่
สารสกัดจากธรรมชาติ
ใช้สำหรับ
ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม, ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง
การจัดส่ง
ทัวประเทศ

มารู้จักกับสารโคลีน

โคลีน คือ สารอาหารสำคัญตัวหนึ่งที่จัดอยู่ในกลุ่มของวิตามินบี พบได้ในอาหาร โดยส่วนใหญ่อยู่ในรูปของฟอสฟา-ติดิลโคลีน (phosphatidylcholine) หรือโคลีนอิสระ (free choline) หากโคลีนรวมตัวกับไขมันที่เรียกว่าฟอสโฟลิปิด (phospholipid) จะได้เป็นฟอสฟาติดิลโคลีน ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่พบมากที่สุดในเลซิทิน (Lecithin) นั่นเอง และโคลีนถูกจัดอยู่ในกลุ่มที่เป็นวิตามินที่ละลายในน้ำ (Watersoluble vitamins) โดยจัดเป็นสารอาหารที่สำคัญชนิดหนึ่งที่ร่างกายสามารถสังเคราะห์ได้เอง ซึ่งโคลีนมีลักษณะเป็นผลึกแข็งข้นไม่มีสี ละลายในน้ำ และแอลกอฮอล์ดูดความชื้นไม่คงตัวเมื่อถูกด่าง สำหรับในร่างกายจะอยู่ในรูป ฟอสโฟไลปิดหรือ Acetylcholine จำเป็นสำหรับการสังเคราะห์โปรตีนและฮอร์โมนจากต่อมหมวกไต และเป็นสารที่ให้กลุ่มเมธิลแก่สารอื่น เพื่อใช้สร้างสารฟอสโฟไลปิด ป้องกันไม่ใช้ไขมันสะสมในตับ (Lipotropic factors) และเป็นส่วนประกอบของ Acetylcholine ซึ่งจำเป็นสำหรับการทำงานของระบบประสาท

โคลีนมีประโยชน์และความสำคัญต่อร่างกายอย่างมากเพราะเป็นส่วนประกอบของเยื่อหุ้มเซลล์ เยื่อหุ้มสมอง กล้ามเนื้อ เซลล์ประสาท รวมทั้งไลโปโปรตีน (Lipoprotein) อีกทั้งยังเป็นสารตั้งต้นในการสร้างอะเซททิลโคลีน(Acetylcholine) ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่ใช้ในการส่งกระแสประสาทของสมอง เหมือนกับ และอะเซติล แอล-คาร์นิทีน
โคลีนมีบทบาทต่อสุขภาพของสมองมาก โดยที่การรับสารโคลีนเพียงพอต่อวัน จะช่วยป้องกันภาวะความจำเสื่อมได้ นอกจากนั้น โคลีนยังส่งเสริมการทำงานของตับให้ดีขึ้น ป้องกันภาวะไขมันสะสมที่ตับในอนาคต
โคลีน คือ สารอาหารสำคัญตัวหนึ่งที่จัดอยู่ในกลุ่มของวิตามินบี พบได้ในอาหาร

แหล่งอาหารที่พบสารโคลีน

ในสมัยก่อนโคลีนถูกจัดเป็นสารที่ไม่จำเป็นสำหรับร่างกายเนื่องจากร่างกายของมนุษย์สามารถสังเคราะห์โคลีนได้เองแต่ในระยะหลังมีข้อมูลจากงานวิจัยใหม่ๆบ่งชี้ว่าร่างกายสามารถสังเคราะห์โคลีนได้ในปริมาณที่ไม่มาก ไม่เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย จึงต้องได้รับสารโคลีนจากอาหารด้วย ซึ่งแหล่งอาหารที่พบโคลีนอยู่จะมีทั้งอาหารที่ได้จากพืชและสัตว์ โดยอยู่ในรูปของโคลีนและเลซิติน โดยแหล่งอาหารที่มีโคลีนและเลซิตินมาก ได้แก่ ไข่ไก่ โดยเฉพาะไข่แดง เนื้อสัตว์ เนื้อปลา เครื่องในสัตว์ ถั่วลิสง ถั่วเหลือง อัลมอนด์ จมูกข้าว ข้าวโอ๊ต เมล็ดทานตะวัน กะหล่ำดอก กะหล่ำปี และอื่นๆ ถั่วเหลืองเป็นแหล่งของโคลีนที่ปราศจากโคเลสเตอรอลและมีไขมันต่ำซึ่งเป็นแหล่งโคลีนที่ดีที่สุด และยังอยู่ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น สารสกัดโคลีน โคลีนในวิตามินบีรวม สารสกัดโคลีนบรรจุในแคปซูล
แหล่งอาหารที่พบสารโคลีนเนื้อสัตว์ ผักผลไม้ และ ธัญพืช

โคลีนมีบทบาทต่อสุขภาพอย่างไร

1. ความจำและการเรียนรู้ของสมอง โคลีนเป็นสารที่ใช้ในการสร้างอะเซททิลโคลีน ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่สำคัญของระบบประสาท เชื่อว่าการมีอะเซททิลโคลีนที่เพียงพอในสมองจะช่วยป้องกันภาวะความจำเสื่อมได้ในคนอายุมากได้
การศึกษาในผู้ที่เป็นโรคความจำเสื่อม (อัลไซเมอร์) ระยะเริ่มแรก พบว่าการให้โคลีนเป็นระยะเวลา 6 เดือนจะสามารถช่วยให้ความจำดีขึ้นได้ หรือการให้โคลีนร่วมกับยาที่ใช้รักษา (cholinesterase inhibitors) ก็ทำให้มีการพัฒนาความสามารถที่ต้องใช้ความจำด้วย
2. การทำงานของตับ ถ้าขาดโคลีน จะทำให้ตับไม่สามารถกำจัดไขมันออกได้ ผลคือจะเกิดภาวะไขมันสะสมในตับ ซึ่งสามารถจะนำไปสู่ภาวะเซลล์ของตับเสื่อม ตับแข็ง และมะเร็งตับได้
3. ลดโคเลสเตอรอล และป้องกันหลอดเลือดอุดตัน โคลีนจะช่วยเพิ่มระดับของ HDL (ไขมันดี) และลดระดับของ LDL (ไขมันเลว) และโคเลสเตอรอลรวม จึงมีผลป้องกันภาวะไขมันอุดตันในเส้นเลือด และโรคหลอดเลือดหัวใจ (Atherosclerosis and Cardiovascular disease) หลอดเลือดสมอง

ประโยชน์สรรพคุณโคลีน

1. ช่วยลดคอเลสเตอรอลได้
2. ช่วยทำให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลายนอนหลับง่าย
3. ช่วยกำจัดสารพิษและยาที่ตกค้างภายในร่างกาย โดยช่วยเสริมการทำงานของตับ
4. ช่วยในกระบวนการส่งกระแสประสาท
5. คงสภาพระบบประสาทให้ปกติ
6. ช่วยความจำ สมาธิ และการเรียนรู้ของสมอง
7. ช่วยต่อสู้กับปัญหาความจำเสื่อมในวัยสูงอายุ
8. ช่วยรักษาโรคอัลไซเมอร์ได้
9. ช่วยป้องกันภาวะไขมันอุดตันในเส้นเลือด
10. ช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ
11. การรับประทานโคลีนอาจช่วยลดภาวะอาการตื่นตระหนกตกใจบ่อย ๆ ได้
ประโยชน์สรรพคุณโคลีนคือ ช่วยลดคอเลสเตอรอล ช่วยบำรุงสมอง

ปริมาณแนะนำการรับสารโคลีน

ปริมาณที่ควรได้รับต่อวัน ชาย 550 มก. / วัน หญิง 425 มก. / วัน หญิงตั้งครรภ์ 450 มก. / วัน หญิงให้นมบุตร 550 มก. / วัน
อาการที่ขาดโคลีน ความจำเสื่อม, โรคเกี่ยวกับประสาท, ความดันโลหิตสูง, คอเลสเตอรอลสูง อาจส่งผลให้เกิดโรคตับแข็งหรือไขมันสะสมที่ตับ, อัลไซเมอร์, ความต้านทานต่อโรค และการอักเสบต่ำ, ผนังเส้นเลือดแดงเสื่อม เนื่องจาก ผนังของหลอดเลือดแข็ง, เกิดลิ่มเลือด และเลือดอุดตันได้

ผลข้างและโทษเคียงของโคลีน

ในผู้ใหญ่ ไม่ควรรับประทานโคลีนเกินวันละ 3.5 กรัม ขนาดที่สูงกว่านี้อาจทำให้มีอาการข้างเคียง คือ ซึมเศร้า เหงื่อออกมาก ความดันโลหิตต่ำ มีกลิ่นตัวเหมือนกลิ่นคาวปลา

ประโยชน์สารสกัดที่เกี่ยวข้อง

CONTACT
169/47 ถ.พุทธมณฑลสาย 4 ต.กระทุ่มล้ม  อ.สามพราน จ.นครปฐม 73220
086-070-0007
ananindustry@gmail.com
https://www.ananindustry.com
WORKING DAYS/HOURS
วันจันทร์ - วันเสาร์
8.00 - 17.00 น.
Copyright © 2008 Anan Industry Company Limited. All Rights Reserved